Saturday, December 26, 2015

ร้องไห้จนไม่มีน้ำตา! สามีแอบกลับบ้าน ไม่ให้ภรรยารู้ตัว แอบเปิดดูสิ่งที่ให้แม่กิน แต่พอเห็นข้างในเท่านั้นแหละ

ลูกสะใภ้พูดว่า “ทำจืดแม่ก็ว่าไม่มีรสชาติ ตอนนี้ทำเค็มนิดหนึ่ง แม่ก็ว่ากินไม่ได้ แล้วจะเอายังไง!”
เมื่อแม่เห็นลูกชายแอบกลับมากระทันหัน เห็นเหตุการณ์ แต่ไม่กล้าพูดอะไร ได้แต่กลืนข้าวเข้าปาก ลูกสะใภ้มองตามด้วยความโกรธ

เมื่อลูกชายลองชิมอาหารที่แม่กำลังกิน ก็พูดกับภรรยาว่า
“ผมบอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าโรคของแม่กินเค็มมากไม่ได้?”
“เอาละ! ในเมื่อเป็นแม่ของคุณ วันหลังคุณก็ทำเองก็แล้วกัน” ลูกสะใภ้กล่าวด้วยความโมโห แล้วก็สะบัดหน้าเดินเข้าห้องไป
ลูกชายเรียกตามด้วยความจนใจ จากนั้นก็หันมาพูดกับแม่ว่า
“แม่ครับ ไม่ต้องกินหรอก เดี๋ยวผมต้มบะหมี่ให้แม่กินนะครับ”
“ลูกมีอะไรจะพูดกับแม่ไหม? ถ้ามีก็บอกแม่เถอะ อย่าเก็บไว้เลย”แม่เห็นอาการกังวลของลูกชาย
“แม่ครับ เดือนหน้าผมได้เลื่อนตำแหน่ง เกรงว่าจะต้องมีงานที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้น เมียผมก็อยากออกไปทำงาน คือว่า....”
แม่รู้ทันทีว่าลูกชายจะพูดอะไรต่อ....
“อย่าส่งแม่ไปอยู่บ้านพักคนชรานะลูก....” แม่พูดออกมาอย่างอ้อนวอน
ลูกชายนิ่งคิดไปนาน แต่ก็พยายามหาทางออกที่ดีกว่านี้
“แม่ครับ อยู่บ้านพักคนชราก็ดีนะแม่จะได้ไม่เหงา ที่นั่นมีคนดูแล ดีกว่าอยู่ที่บ้านนะครับ หากเมียผมไปทำงาน เธอจะไม่มีเวลาดูแลแม่เลยนะครับ”
หลังจากที่เขาอาบน้ำเสร็จ ก็ออกมาทานบะหมี่ จากนั้นก็เข้าไปที่ห้องหนังสือ เขายืนนิ่งอยู่ที่หน้าต่าง ในใจเกิดความสับสนขัดแย้ง ไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไรดี!
แม่ของเขาเป็นหม้ายตั้งแต่ยังสาว กล้ำกลืนทนทุกข์เลี้ยงเขามาจนเติบใหญ่ อีกทั้งส่งเสียให้เรียนยังต่างประเทศ แต่แม่ไม่ได้อ้างสิ่งที่ทำไปเป็นเบี้ยต่อรองให้เขาต้องเลี้ยงดู กลับกันภรรยาผู้มาทีหลังกลับเรียกร้องให้เขาต้องรับผิดชอบ นี่เขาต้องส่งแม่ไปอยู่บ้านพักคนชราจริงหรือ?
“คนที่จะอยู่กับแกในช่วงบั้นปลายชีวิตคือเมียนะโว้ย ไม่ใช่แม่!” เพื่อนๆมักจะเตือนเขาอย่างนี้
“แม่ของเธอแก่แล้วนะ หากโชคดีก็อยู่กับแกได้อีกหลายปี ทำไมไม่อาศัยเวลาที่เหลือของแม่แล้วก็กตัญญูปรนนิบัติท่านละ อย่ารอให้แกอยากกตัญญูแต่แม่ไม่อยู่แล้ว แล้วแกจะเสียใจ!” ญาติๆมักจะเตือนเขาว่าอย่างนี้ เขาไม่กล้าคิดอะไรต่อ กลัวว่าตนเองจะเปลี่ยนแปลงความตั้งใจ
เย็นแล้ว พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า เขานั่งเงียบๆคนเดียวด้วยจิตใจที่หดหู่
ณ บ้านพักคนชราที่แสนจะหรูหรานอกชานเมือง เขาใช้เงินจำนวนมากเพื่อทดแทนความรู้สึกผิดต่อแม่ของเขา อย่างน้อยที่นี่ก็สะดวกสบาย
เมื่อเขาพยุงแม่เข้าสู่ตัวอาคาร ทีวีจอยักษ์กำลังฉายภาพยนตร์ตลกอยู่ แต่ไม่มีเสียงหัวเราะจากผู้ชมแม้แต่คนเดียว คนชราจำนวนหนึ่งที่สวมใส่เสื้อผ้าเหมือนกัน นั่งอยู่บนโซฟานั่งมองประตูทางเข้าด้วยสายตาอันเหม่อลอย หญิงชราคนหนึ่งกำลังก้มตัวลงไปเก็บขนมที่ตกอยู่ที่พื้นขึ้นมาใส่ปาก
เขารู้ว่าแม่ชอบห้องที่สว่างโล่ง จึงเลือกห้องที่แสงพระอาทิตย์สามารถสาดส่องเข้ามาได้ เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ใบไม้กำลังร่วงลงสู่พื้นหญ้าเป็นจำนวนมาก นางพยาบาลหลายคนกำลังเข็นรถเข็นที่มีคนชรานั่งอยู่ออกไปชมพระอาทิตย์ตกดิน รอบตัวเงียบสงัด ทำให้เขาสะท้านวาบในจิตใจ
แม้แสงพระอาทิตย์ยามลับขอบฟ้าจะงดงามสักเพียงใด นั่นก็หมายความว่าความมืดยามค่ำคืนกำลังจะย่างกรายเข้ามาแทนที่ เขาถอนหายใจเบาๆ
“แม่ครับ ผม....ต้องไปแล้วนะ” ผู้เป็นแม่ทำได้เพียงแค่พยักหน้า
ตอนที่เขาเดินจากมา แม่ยังคงโบกมือลาด้วยสีหน้าอันเศร้าสร้อย อ้าปากพูดโดยไม่มีเสียงอยู่ตลอดเวลา เมื่อเขาหันมามอง จึงเห็นผมสีดอกเลาของแม่ เขานึกในใจ “แม่แก่แล้วจริงๆ”
อยู่ๆ ภาพในครั้งอดีตก็ผุดขึ้นในห้วงแห่งความคิด ปีนั้นเขาอายุได้เพียงแค่6ขวบ แม่มีธุระต้องไปต่างจังหวัด จึงต้องพาเขาไปฝากไว้ที่บ้านคุณลุง ตอนที่แม่จะออกจากบ้านไป เขารู้สึกกลัวมาก เอาแต่กอดขาแม่ไม่ยอมให้แม่ไป
“แม่จ๋าอย่าทิ้งหนูไป แม่จ๋าอย่าทิ้งหนูนะ!” สุดท้าย แม่ก็ไม่กล้าทิ้งเขาไปต่างจังหวัด
เขารีบก้าวเท้าเดินออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด เมื่อปิดประตูแล้วก็ไม่กล้าหันไปมองแม่อีก
เมื่อกลับถึงบ้าน เขาเห็นภรรยาและแม่ยายกำลังเก็บเอาข้าวของของแม่โยนออกมานอกห้อง
ถ้วยรางวัลรูปคนยืนสูงประมาณ3ฟุตที่เขาชนะเลิศประกวดเรียงความ “แม่ของฉัน”
พจนานุกรมอังกฤษจีนที่แม่ซื้อให้เขาในวันเกิดซึ่งเป็นของขวัญชินแรกที่เขาได้รับจากแม่
ยังมียาหม่องน้ำที่แม่ต้องทาขาก่อนนอนทุกวันฯ
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ! พวกคุณโยนของๆแม่ผมออกมาทำไม?” เขาถามออกไปด้วยความโมโหสุดขีด
“ขยะทั้งนั้น ถ้าไม่ทิ้ง แล้วฉันจะเอาของๆฉันวางไว้ตรงไหน?”แม่ยายพูดอย่างไม่สบอารมณ์
“ใช่แล้ว คุณรีบเอาเตียงเน่าๆของแม่คุณไปทิ้งได้แล้ว พรุ่งนี้ฉันจะซื้อเตียงใหม่ให้แม่ฉัน!”
รูปเก่าๆสมัยเขายังเด็กกองอยู่กับพื้น มันเป็นรูปที่แม่พาเขาไปเที่ยวสวนสัตว์และสวนสนุก
“นั่นมันเป็นสมบัติของแม่ผม ใครก็เอาไปทิ้งไม่ได้!”
“มันจะมากเกินไปแล้วนะ มาทำเสียงดังกับแม่ฉันได้ยังไง ขอโทษแม่ฉันเดี๋ยวนี้!”
“ผมเลือกคุณก็ต้องรักแม่คุณด้วย แต่คุณแต่งงานเข้ามาอยู่บ้านผม ทำไมคุณรักแม่ผมไม่ได้?”
ท้องฟ้าอันมืดมิดหลังฝนตก หนาวสะท้านเข้าไปถึงหัวใจ ท้องถนนที่ว่างเปล่าไร้รถรา บีเอ็มดับบลิวคันหนึ่งพุ่งไปข้างหน้าราวกับอยู่ในสนามแข่ง พร้อมกับเสียงสะอื้นไห้ของชายคนหนึ่งซึ่งมุ่งไปทางบ้านพักคนชรานอกเมือง
จอดรถเสร็จ เขารีบวิ่งขึ้นไปที่ห้องพักของแม่ เมื่อเปิดประตูเข้าไป เขายืนมองแม่ด้วยความรู้สึกที่ไม่น่าให้อภัยตัวเอง แม่ของเขาก้มหน้าใช้มือนวดที่ขาของตัวเอง
เมื่อแม่ของเขาเงยหน้าขึ้นมองไปที่ประตู ก็เห็นลูกชายของตัวเองยืนอยู่และในมือถือยาหม่องน้ำอยู่ และก็พูดออกมาด้วยเสียงอ่อนโยนว่า
“แม่ลืมเอามาด้วย ดีนะที่ลูกเอามาให้...”
เขาเดินไปหาแม่และคุกเข่าลงไป
“ดึกแล้วลูก แม่ทาเองได้ พรุ่งนี้ลูกต้องไปทำงานแต่เช้า กลับไปเถอะ!”
เขานิ่งไปครู่หนึ่ง สุดท้ายก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้
“แม่ครับ ผมขอโทษ แม่ยกโทษให้ผมนะ กลับบ้านเราเถอะ!”

source: http://www.siamupdate.com

Monday, November 30, 2015

5 ทริคเรื่องเซ็กซ์ที่ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเซ็กซ์แนะนำเมื่อ ไม่ถึงจุดสุดยอด

 ใครเคยมีปัญหาอาการ ” ไม่ถึงจุดสุดยอด ” กันหรือเปล่า ทำยังไง๊ยังไงก็ไม่ถึงสักที บางทีก็ใช้เวลาเนิ่นนานกว่าจะถึงสักที เหนื่อยก็เหนื่อยแล้วแต่อีกฝ่ายก็ไม่ถึงฝั่งฝันพร้อมเราสักที เอาล่ะ เรามีวิธีค่ะ  แค่ทำตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญเรื่องเซ็กซ์ 5 ข้อนี้ รับรองว่าจุดสุดยอดของคุณสองคนคงอยู่ไม่ไกล ถ้าไม่เชื่อ sexologist แล้วสาวๆจะเชื่อใครล่ะจริงมั้ย

1.จุ๊บกันบ่อยๆ
เรื่องง่ายๆที่คู่รักก็ทำกันเป็นธรรมดา การรักษานิสัยให้จูบกันเป็นประจำ ไม่ว่าจะตอนเช้า ก่อนนอน เพราะผลวิจัยออกมาว่ามันมีประโยชน์ต่อความสัมพันธ์มากเลยนะ และทำให้คุณสองคนมีความหลงใหลในกันและกันมากขึ้น แม้จะมีเพียงเวลาสั้นๆ  การพูดกันด้วยอะไรเซ็กซี่ๆแบบนี้ จะทำให้คุณสองคนพัฒนาไปสู่การมีอะไรกันบนเตียงเพิ่มขึ้น
 .
2.ลองเซ็กซ์ทอย
เซ็กซ์ทอยไม่ใช่เรื่องน่าขำ แต่มันคือความแปลกใหม่ในเซ็กซ์ของคุณสองคนต่างหาก มันช่วยเติมเต็มให้คุณพบเจอสิ่งที่คุณไม่เคยเจอ และความตื่นเต้นก็นำซึ่งความเสียวได้ง่ายๆ ถ้ายังใจไม่กล้าพอไปซื้อเซ็กซ์ทอยจริงจังก็ลองเจลหล่อลื่น หรือ ตัว vibrator  ก็ทำให้อีกฝ่ายถึงได้แล้ว
 .
3. ใช้มือกับตัวเองบ้าง
แม้ว่าจะมีแฟนแล้ว แต่การใช้มือหรือช่วยตัวเองที่เรียกว่า solo sex นั้น ดีกับสุขภาพและอารมณ์ของคุณได้ดีเลยทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้นยังทำให้คุณรู้สึกดีมากอีกด้วย

4.ลดสิ่งไม่จำเป็นออก
สร้างบรรยากาศให้มีความเครียดน้อยที่สุด เช่น การทำความสะอาดห้อง การปิดทีวี ปิดโทรศัพท์ ปิดคอม และปิดนาฬิกาไปเลย ไม่ต้องรู้วันเวลา สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณทั้งคู่หลั่งสาร เอนโดรฟินและโดพามีน ที่ช่วยกระตุ้นความรู้สึกของคุณสองคนได้อย่างง่ายดาย

5.อย่าคิดถึงแต่ว่าจะต้องถึง จะต้องฟิน
ลองวิธีแสนจะง่ายเช่นการบีบนวด การจับ การสัมผัส การกระทำที่ให้ความรู้สึกเหมือนมีเพศสัมพันธ์ทั้งที่ไม่ได้มีเซ็กซ์กัน เริ่มด้วยวิธีที่ง่ายๆ เหล่านี้ ความรู้สึกพอใจและมีความสุขในเริ่มต้นจะทำให้เขาและคุณเสร็จสิ้นภารกิจได้ง่ายมากยิ่งขึ้นเป็นกองเลยล่ะ

ที่มา marieclaire

Sunday, November 29, 2015

น่ารู้! เหตุผลที่สาวๆต้องส่ง เสียงคราง เวลามีอะไรกับคุณผู้ชาย

เอาหล่ะเวลาทำกิจกรรมเข้าจังหว่ะมันก็ต้องมีการส่งเสียงร้องบ้างเป็นธรรมดาไม่ใช่แค่สาวๆหรอกนะคุณหนุ่มๆเองบางทีก็ไม่แพ้กัน ส่งเสียงมาเป็นเสียงประสานกันตลอด จะว่าไปมันก็เป็นเรื่องธรรมชาตินะที่เราๆรู้กันอยู่แล้วว่ามันจะต้องมีเสียงมาบ้าง แต่ เสียงคราง ของคุณสาวๆนั้นเกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง
1. ปฏิกิริยาอัตโนมัติเมื่อพอใจ

เมื่อนักเรียนทำการบ้านได้ดีคุณครูก็ต้องชื่นชมจริงมั้ยจ๊ะ นี่ก็คล้ายๆกันเมื่อคุณผู้ชายทำได้ดีแน่นอนว่าสาวๆต้องชื่นชมแต่จะชมเป็นคำพูดคำจาตรงๆมันอาจจะยากเกินไปเลยต้อง ชื่นชนแบบเสียงร้องนี่แหละจ้า

2. ปฏิกิริยาอัตโนมัติเมื่อเจ็บ

แน่นอนจ้า การกระทำบางอย่างของคุณผู้ชายมันก็ทำให้เจ็บได้เหมือนกัน อย่าคิดว่าผู้หญิงเป็นนักยิมนาสติกทุกคนนะ แหกขามากเกินไปมันก็รู้สึกอึดอัดนะจ๊ะ สังเกตุด้วยนะว่าเสียงร้องเหล่านี้สาวๆพอใจหรือเจ็บกันแน่ เพราะบางทีเธออาจจะทนอยู่เพื่อให้หนุ่มๆพอใจ โดยไม่ยอมบอก

3. เพิ่มอารมณ์ตัวคุณเอง

วันๆหนึ่งของสาวๆที่ผ่านไปไม่ใช่เรื่องง่าย ไหนจะต้องเจอเจ้านาย ลูกค้า ฯลฯ แน่นอนว่ามีความเครียดสะสมมาตลอดทั้งวัน อารมณ์เหล่านี้อาจจะอยู่ในสมองของคุณสาวๆเอง การกรีดร้องเป็นการปลดปล่อยอารมณ์แบบหนึ่งที่จะทำให้ความเครียดเหล่านี้หมดไปและไฟรักตรงหน้าจะลุกโชนขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
4. เพื่อเพิ่มอารมณ์ของคุณผู้ชาย

คุณผู้ชายคนไหนเคยต้องมีเซ็กซ์แบบเงียบๆมั้ยหล่ะ คุณพอใจมั้ย? ถ้าหล่อนเงียบกริบแบบไม่มีเสียงใดเลย นั่นแหละคำตอบ คุณกำลังมี “เซ็กส์” ไม่ได้อ่านหนังสือในห้องสมุด ดังนั้นเสียงจึงมีความจำเป็นในการมีความสัมพันธ์กันเสมอ

5. เสียงครางของคุณสาวสร้างจังหวะของคุณผู้ชายได้

ถ้าคุณส่งเสียงครางอย่างมีความสุขเค้าจะปฏิบัติต่อคุณแบบหนึ่ง คุณอาจจะได้จังหวะที่พอใจมากขึ้น ถ้าคุณส่งเสียงครางแบบทรมานเค้าจะเริ่มรู้แล้วว่าเค้าทำให้คุณเจ็บ โดยไม่ต้องมีคำพูดใดๆ

6. เพื่อให้ “เร็วขึ้น”

อะไร เร็วขึ้น หน่ะหรอ ก็บางทีคุณผู้ชายเล่นทำซะนานกันเลยทีเดียวบางครั้งมันยาวนานเกินไป คุณสาวๆอาจไม่มีอารมณ์แล้วก็เลยอาจจะต้องใช้เทคนิคนิดหน่อยในการทำให้คุณนั้นจบกิจกรรมของคุณเร็วขึ้น

7. เพื่อให้ “ช้าลง”

ใช้แล้ว ช้าลง คุณผู้ชายบางคนใช้เวลายาวนาน แต่ไม่ใช่กับทุกคนหนิ บางคนก็ใช้เวลาสั้นจนเกินไป (สงสัยรีบ) เสียงครางของคุณนี่แหละที่จะกำหนดเค้าได้ อย่างน้อยก็เลื่อนเวลาไปได้สักระยะหนึ่ง

8. เพื่อความ “เร่าร้อน”

เร้าอารมณ์บ้าง มีเสียงครางมันทำให้ดูว่าคุณเร่าร้อนขึ้นมาทันที

9. กระตุ้น คุณผู้ชายให้ “ว้อนท์”

เสียงครางเบาๆขณะที่เค้าจูบคุณหรือไซร้ซอกคอคุณจะทำให้กระตุ้นเค้าได้มากเลยทีเดียว การครางเบาๆก่อนที่เสื้อผ้าของคุณจจะหลุดออกเป็นสิ่งที่ควรทำถ้าต้องการให้เค้ามีอารมณ์มากขึ้น

10. ความเงียบ คือ “ฆาตกรอารมณ์”

ความเงียบเป็น ฆาตกรวายร้ายสำหรับอารมณ์ของคุณทั้งคู่ อย่าเงียบเลย ร้องออกมาเถอะ คิดซะว่าเล่นรถไฟเหาะไว้

อย่าอายเลยที่จะส่งเสียงครางออกมาบ้างเพราะมันก็มีแค่คุณสองคนเท่านั้นแหละที่ได้ยิน (ถ้าไม่ดังจนห้องข้างๆได้ยินน่ะนะ)

Saturday, November 28, 2015

6 ท่าบริหาร ทำแล้วพุงหาย หน้าท้องแบนเรียบอย่างได้ผล100%

พุง หรือ ห่วงยางรอบเอว  เป็นปัญหาสำหรับหลายๆคนที่ทำให้ขาดความมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นการสวมใส่เสื้อผ้าหรือแม้กระทั่งการทำงาน ซึ่งหน้าท้องหรือพุงของเรานั้นอาจจะก่อเป็นหาด้านความมั่นใจอีกทั้งหากปล่อยไว้นานๆแล้วยังจะทำให้เกิดเป็นโรคภัยในภายหน้าด้วย

สาวๆหนุ่มที่อายุ 25 ปีขึ้นไปแล้วร่างกายจะเริ่มเผลาผลาญพลังงานน้อยลง ทำให้อาหารที่เรารับเข้าไปในร่างกายต้องน้อยลงไปด้วย แต่ว่าตามปกติคนเราเมื่ออายุมากขึ้นย่อมกินมากขึ้น เนื่องจากความเครียด หรือว่าเพราะเราะทำงานแล้วมีเงิน อยากกินอะไรก็ได้กิน ฉะนั้นวันนี้เราต้องมาหาวิธีลดพุงกัน โดยวันนี้เรามี 6 ท่าบริหารเพื่อลดพุงมาฝากกัน อย่าลืมทำอย่างสม่ำเสมอกันนะคะ

เมื่อบริหารลดพุงกันแล้วก็อย่าลืมควบคุมอาหารกันด้วยนะคะ การควบคุมอาหารเป็นวิธีที่สำคัญมากๆ เราไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายเลยก็ได้เพื่อลดพุง หรือกำจัดหน้าท้องของเรา ควรรับประทานผัก ผลไม้ อาหารที่มีกากใยมากๆ ของหวาน เค้ก ไอกรีม ถ้าจะกินจริงอย่างกินหลังหัวค่ำ และอีกอย่างอย่านอนกลางวันหลังรับประทานอาหาร

Friday, November 27, 2015

มาไกลมากอ่ะ!! น้องอลิส เน็ตไอดอลสาวอวบ ตอนนี้บอกเลยหุ่นเธอฟินมาก!!!

ว้าวววบอกเลยนะว่าถ้าใครได้เห็นหุ่นของเน็ตไอดอลสาวที่เคยอวบอย่าง น้องอลิส จะต้องบอกเลยว่านางผอมลงเยอะมากนะ จากน้ำหนัก 65 ลดลงเหลือ 48 หายไปถึง 17 โลในระยะเวลาแค่ 6 เดือนเท่านั้นเอง ความพยายามเป็นเริ่ดจริงๆเลยนะจ๊ะสาวอลิสคนสวยย ถึงจะผอมลงแล้วแต่ความน่ารักเซ็กซี่ไม่มีลดลงนะจ๊ะ

Source: www.variety.teenee.com

Wednesday, November 25, 2015

ขนลุกอ่ะ!!สาวไทย “ระลึกชาติ” เกิดและตายที่ “หุบเขานรกญี่ปุ่น”

พอมาอยู่ภาคใต้คนแถวบ้านกลับเหยียดหยาบมองว่าทิพย์มาขายตัว ทั้งที่ความจริงทิพย์วิ่งขายปุ๋ยตามบ้านตามสวนกับแฟนอย่างลำบาก สุดท้ายเป็นหนี้เพิ่มอีก 2ล้านกว่า แทบอยากจะฆ่าตัวตายเลยด้วยซ้ำ สองคนผัวเมียซึ่งตอนนั้นไม่เหลืออะไรแล้วมีแต่หนีสิน ทิพย์เข้าใจหัวอกคนที่เป็นหนี้เลยว่าอารมณ์ชั่ววูบการฆ่าตัวตายเป็นอย่างไร

แต่ดีนะที่ทิพย์กับแฟนทิพย์เราให้กำลังใจซึ่งกันและกัน คิดซะว่าอนาคตต้องดีกว่านี้อดทนสู้ต่อไป วิ่งทำงานทุกวันไม่มีวันหยุดอดมือกินมื้อ เก็บเงินมาเรื่อยๆ จนถึงจุดที่เรามีเงินก้อนสามารถชดใช้หนี้สินได้ทั้งหมด รวมถึงหนีนอกระบบที่เชียงรายด้วย จึงทำให้เรากลับไปหาพ่อหาแม่ที่เชียงรายได้อีกครั้งอย่างภูมิใจ ซื้อรถให้พ่อให้เงินพ่อแม่ใช้ทุกๆเดือน

เมื่อมีเงินแล้ว เราก็อยากทำตามฝัน อยากพาครอบครัวไปเที่ยวญี่ปุ่นตามที่ฝันไว้ ก่อนไปญี่ปุ่นเราก็นั่งดูสถานที่ท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นในที่ต่างๆ จนบ้างครั้งเราก็รู้สึกแปลกใจเหมือนกันนะ ว่าทำไมเราถึงชอบประเทศนี้จังเลย ทำไมสถานนี้เหมือนเราเคยมา เหมือนเราคุ้นเคยกับที่นี่ พอเราไปถึงเมืองๆหนึ่งที่ญี่ปุ่นที่เขาเรียกว่าหุบเขานรกที่ไปกินไข่ดำกันค่ะ
ตอนนั้นแหละทำให้ทิพย์รู้สึกว่าที่นี่เป็นเหมือนที่ชาติที่แล้ว เราเกิดที่นี่และตายที่นี่ทั้งๆที่เพิ่งมาครั้งแรก ที่นี่เมื่อก่อนเป็นภูเขาไฟ มีคนตายมากมาย มันเป็นความรู้สึกโหยหา ความรู้สึกผูกพันแบบบอกไม่ถูก จนร้องไห้ออกมาเลย แฟนทิพย์ก็งง ว่าทิพย์เป็นอะไร จับทิพย์เขย่าๆ จนทิพย์รู้สึกตัว แต่ทิพย์ก็ยังหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้จนทุกวันนี้

เพียงแค่รู้คำตอบแล้วว่าตลอดชีวิตตั้งแต่เด็ก ที่มีแต่คนมองเราเป็นคนญี่ปุ่น บางคนไม่กล้าทักเราเพราะคิดว่าเราเป็นต่างชาติ ทำไมทิพย์ถึงชอบประเทศญี่ปุ่นมาก ทำไมทิพย์ถึงคลั่งความเป็นญี่ปุ่น จนแฟนทิพย์บอกทิพย์ว่าไปตรวจจิตหรือตรวจประสาทบ้างนะ(หัวเราะ) จนมาถึงหุบเขาแห่งนี้ ทิพย์เชื่อและผูกพันกับที่นี่ว่าชาติที่แล้วเราเกิดและตายที่หุบเขานรก หรือหุบเขาไข่ดำในชาตินี้นี่เอง"

Tuesday, November 24, 2015

เอาละสิ!!เพจดังโพสต์ถึงกรณี ปอ เราได้อะไรจากสื่อที่ไปเกะกะที่รพ.?

จากกรณีที่ตอนนี้พระเอกหนุ่ม ปอ ทฤษฎี ได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลรามาธิบดีมาเป็นเวลาสักระยะแล้ว และในช่วงนี้ก็จะมีนักข่าวสื่อมวลชนที่คอยทำข่าวอย่างใกล้ชิดจนทำให้กลายเป็นดราม่ากันเบาๆ เช่นเดียวกับเพจดัง เฟซบุ๊ค อวยไส้แตกแหกไส้ฉีก ก็ได้มีการโพสต์ถึงกรณีนี้เอาไว้ด้วยโดยระบุว่า...

กรณีคุณปอ เราได้อะไรจากนักข่าวไปเกะกะที่โรงพยาบาล?

ว่าจะไม่พูดอะไรแล้ว จนวันนี้เห็นข่าวว่าทางโรงพยาบาลเค้าย้ายคุณปอลงมาผ่าตัดด้วยความโกลาหล ต้องเอาพลาสติกคลุมลงมา โดยมีกองทัพนักข่าวกรูไปรุงรังเกะกะ

ผมคิดว่าเราควรปฏิรูปสื่อได้แล้ว โดยเฉพาะสื่อบันเทิง ที่ทุกวันนี้แทบจะมีสภาพไม่ต่างอะไรกับแฟนคลับดาราที่มีอภิสิทธิ์ได้เข้าไปในโซนดารามากกว่าแฟนคลับหรือติ่งที่เข้าไม่ได้เท่านั้น ความบ้าดาราของสื่อไม่ได้ต่างอะไรจากติ่งเลย ประชาชนคนธรรมดาไม่ต้องจบสื่อมามีความคิดเกี่ยวกับข่าวดารายังไง สื่อมวลชนสาขาบันเทิงก็คิดได้เท่านั้น สื่อบันเทิงบ้านเราแทบจะไม่มีภูมิปัญญาหรือสติในการคิดที่จะต่อยอดข่าวบันเทิง หรือให้บทเรียนอะไรกับประชาชนในกรณีศึกษาดาราที่เกิดขึ้นต่างๆนาๆได้เลย

และในกรณี ปอ ทฤษฎี น่าตลก น่าหัวเราะจริงๆ ที่สารพัดสื่อหลงไปลงข่าวลวงตามโซเชียล สารพัดสื่อไปเกาะกระแสผู้วิเศษนักไสยที่อยากดัง เอามาลงเป็นข่าวกระแสหลัก ในขณะเดียวกันในวันที่ทาง รพ รามา ลงข่าวว่าอาจจะต้องตัดขา เราแทบหาความรู้เกี่ยวกับการตัดขาในกรณีที่ติดเชื้อจากสื่อบันเทิงไม่ได้เลย ต้องไปหาตามเพจคุณหมอต่างๆที่ให้ความรู้ สื่อบันเทิงไม่มีความคิดที่จะไปหาความรู้เลย จนวันรุ่งขึ้นเราถึงเห็นสื่อกระแสหลักไปแชร์รายละเอียดเหตุผลที่ต้องตัดขามาจากเพจต่างๆ ส่วนประชาชนที่ไม่ได้ตามข่าวในเฟซบุ้ค ยังเห็นสื่อบางฉบับลงข่าวมั่วๆซั่วๆเกี่ยวกับนักไสยอยู่เลย

วันนี้ผมอยากจะถามสื่อที่ไปเกาะตามโรงพยาบาลว่า คุณได้ทำประโยชน์อะไรให้กับประชาชนบ้าง นอกจากไปรุงรังเกะกะ คอยไปถ่ายรูปดาราที่มาเยี่ยมคุณปอ ผมว่าดาราที่เค้าจะไปเยี่ยมเค้าก็ไม่ผิดในฐานะเพื่อนร่วมอาชีพ แต่ผมอยากถามว่ามันสำคัญอะไรที่จะต้องไปคอยตามถ่ายรูปดาราที่ไปเยี่ยม คอยสัมภาษณ์ คือประชาชนได้อะไรจากการเกาะติดตามภาพถ่ายดาราที่ไปรามาเหรอครับ เท่าที่ทราบ มันหนักถึงขนาดว่าผู้จัดการดาราบางคนโทรบอกนักข่าวนัดเวลากันแล้วว่าจะไปเยี่ยมตอนโน้นตอนนี้ แล้วให้สื่อมารอถ่ายรูป

บางครั้งการมาเกาะติดที่โรงพยาบาล กับการไปนั่งหาความรู้ หรือคิดประเด็นต่อยอดทำสกู๊ปให้ความรู้กับประชาชนในกรณีศึกษาต่างๆ จะด้วยโรคไข้เลือดออกบ้าง จะด้วยเรื่องชีวิตครอบครัวดารากับความเป็นส่วนตัวที่ประชาชนควรยอมรับได้แล้ว ทุกวันนี้ผมก็ยังงงว่านักข่าวไปตามถ่ายรูปน้องมะลิเต้นเอามาให้ประชาชนดู คือน้องมันก็เด็กน้อยอาะนะ ทำข่าววันสองวันพอแล้ว อย่าทำตัวเป็นติ่งดาราเสียเอง เห็นเด็กมันน่ารัก เห็นประชาชนชอบก็ไปเกาะไปถ่ายรูปเด็กมันทุกวัน ไม่คิดเหรอว่าเด็กมันจะงง วันนึงกูอยู่ของกูดีดี วันนี้พ่อกูไม่สบาย พวกมึงมากรูมารุงรังถ่ายรูปกูไปทำไม

อ่านแล้วเข้าใจเลย!! หมอแมว บอกถึงสาเหตุทำไมต้องตัดขา ปอ !!


จากที่แพยท์ได้ออกมาบอกว่ามีความจำเป็นจะต้องตัดขาซ้ายเหนือข้อเท้าของ ปอ ทฤษฎี เพื่อควบคุมการติดเชื้อนั่่น ก็ทำให้บรรดาชาวเน็ตต่างก็มีความกังวลและสงสัยเป็นอย่างมากว่าถึงกับต้องตัดออกเลยหรือ!? แต่พอได้อ่านข้อความในทวิตเตอร์จาก "หมอแมว" (@mor_maew) ที่ได้มีการอธิบายไว้แบบเข้าใจง่ายๆ เลยอยากจะนำมาแบ่งปันให้เพื่อนๆได้อ่านกันด้วยนะจะได้หมดห่วงหมดกังวล

จากข่าวของพี่ปอเรื่องขาที่ขาดเลือด ทำไมจึงเกิดและทำไมต้องตัด คงต้องรอทางรามาฯแถลงอีกครั้ง แต่จะเล่าให้ฟัง เพราะในปัจจุบัน ภาวะนี้เกิดได้บ่อยขึ้น ... ที่เกิดได้บ่อยขึ้น เพราะคนเรารอดตายจากโรคร้ายมากขึ้นคือคนเราสมัยก่อน ถ้าป่วยไม่สบาย ติดเชื้อในกระแสเลือด ท้องเสียจัดๆ จนความดันต่ำ ... ตายอย่างเดียว

ต่อมา เรามีน้ำเกลือ ... ก็ให้น้ำเกลือไป ให้ยาฆ่าเชื้อไป ถ้ายาสู้ทันก็รอด ยาสู้ไม่ทัน ก็ตาย ตายจากการที่ความดันต่ำจนเลือดไม่เลี้ยงสมองหัวใจ ต่อมา เรามียากระตุ้นหัวใจ ... ยากระตุ้นหัวใจ หน้าที่มันคือ ทำอะไรก็ได้ ขอให้ความดันเลือดขึ้นโดยที่สมองและหัวใจยังไม่ตาย

ดังนั้น พอติดเชื้อรุนแรง ความดันตกรุนแรง ร่างกายจะตอบสนองด้วยการปิดระบบเลือดที่ไปเลี้ยงไตและทางเดินอาหารก่อน พอปิดสองระบบนี้แล้ว ไตจะวาย (ท้องอืดอาเจียนก็มีแต่ช่างมันก่อน คนกำลังจะตาย) แต่ถ้าเชื้อยังอยู่ความดันจะลงต่อ หัวใจก็เต้นถี่ขึ้นเรื่อยๆ

หมอก็จะใช้ยากระตุ้นหัวใจเข้าไป ทำหน้าที่ 1) เฆี่ยนหัวใจให้เต้นเร็วขึ้น เพื่อเร่งความดันและเลือดไปสมอง 2)บีบเส้นเลือดเล็กๆส่วนปลาย ยาจะเข้าไปรีดเลือดจากส่วนปลาย กลับมาที่ส่วนกลางให้หมด ... ซึ่งปกติหมอจะให้ในระดับที่ไม่มากไปเพราะเดี๋ยวเนื้อจะตาย ลำไส้จะขาดเลือด แต่ถ้าถึงจุดนึงที่ความดันมันไม่เหลือแล้ว มันไม่รู้จะสู้ยังไงแล้ว ก็ต้องเพิ่มยา ใช้เครื่องช่วย ใช้ทุกอย่างเข้ามา เพิ่มยาให้สุดๆเท่าที่จะไหว

ผลคือ ในช่วงที่วิกฤตสุดๆ อาจจะต้องเพิ่มยาจนกระทั่งเลือดไม่ไปเลี้ยงส่วนปลาย คือรักษาชีวิตไว้ก่อน ที่จริง ในคนที่ติดเชื้อในกระแสเลือดรุนแรง ต่อให้ไม่ให้ยากระตุ้นหัวใจ ถ้าความดันต่ำมากๆนานๆ ก็ปลายมือปลายเท้าขาดเลือดได้เหมือนกัน และเมื่อให้ยาแล้ว ความดันเริ่มดี หมอก็จะเอาเครื่องช่วยทั้งหลายออก และค่อยๆลดยากระตุ้นหัวใจดู

จากนั้นก็ไปประเมินเรื่องแขนขาปลายนิ้วที่ขาดเลือดว่าเป็นยังไง ซึ่งตรงนี้แหละที่น่ากลัว เมื่อแขนขาขาดเลือดจากความดันต่ำ เส้นเลือดปิดอยู่ก็ไม่มีอะไร แต่เมื่อใดที่ร่างกายเริ่มฟื้น ความดันเริ่มมา เส้นเลือดที่เปิดจะพาของเสียกลับมาของเสียที่เกิดขึ้นช่วงที่ขาขาดเลือดนี้ จะมีสารหลายตัวที่ทำให้ร่างกายเกิดความดันตกรุนแรงได้ พูดง่ายๆว่าถึงตาย

ดังนั้นเมื่อประเมินแล้วว่าแขนขาไม่สามารถกลับมาปกติได้ แพทย์มักจะตัดส่วนนั้นออก เพราะเก็บไว้ก็รังแต่จะอันตรายถึงชีวิต การตัดนี้หมอผ่าตัดจะมีวิธีเช็คอยู่ว่าตัดแค่ไหน ... ต้องไม่ตัดน้อยไป เพราะถ้ามีการติดเชื้อต่อก็เสี่ยงชีวิตต้องตัดเพิ่ม ... และไม่ตัดมากไป

สุดท้ายก็ขอให้พี่ปอหายไวๆ ... ในบรรดาคนไข้ไข้เลือดออกที่ได้ข่าวหรือเห็น .. ผมภาวนาให้หายไวๆกันหมดไม่ว่ารู้จักไม่รู้จัก ก็เหลือแค่3คนนี่แหละ


Thursday, November 19, 2015

7 ท่าเด็ด เสร็จทุกราย !! (18+)


1.ท่ามังกรผงาด (The Standing Dragon)
อาจจะเป็นท่าพื้นฐานที่เห็นได้ในหนังโป๊ทั่วไป แต่ถ้าคุณยังไม่เคยลองล่ะก็ถือว่าพลาดทีเดียว ท่านี้ใช้ขอบเตียง ขอบโต๊ะให้เป็นประโยชน์ ผู้หญิงอยู่ในท่าคุกเข่าหันก้นให้ผู้ชาย โดยผู้ชายจะยืนแล้วเข้าทางด้านหลัง ท่านี้รับประกันความเด็ดดวง ชนิดที่ว่าคุณจะร้องซี๊ดซาดอยู่ตลอดจนเสร็จ
ระดับความเสียว : 5 ดาว

2.ท่าหมา (The Flatiron หรือ Downward Dog)
ผู้หญิงจะนอนคว่ำหน้า โดยให้ผู้ชายร่วมรักจากด้านหลัง ซึ่งผู้หญิงอาจใช้หมอนรองตรงสะโพกเพื่อยกตัวขึ้นเล็กน้อย ทำให้ผู้ชายสามารถสอดใส่ได้โดยง่าย ส่วนผู้ชายก็เอามือสองข้างยันกับพื้น แล้วเร่งจังหวะตามใจต้องการ
ระดับความเสียว : 4 ดาว

3.ท่ามังกรบิน (The Face Sitter หรือ Hovering Dragonfly)
ท่านี้หนุ่มๆ หลายคนน่าจะชอบ เป็นท่าที่ให้ผู้หญิงทำออรัลเซ็กส์ให้ผู้ชาย โดยให้ผู้หญิงนอนลง แต่ยกหัวให้สูงขึ้นเล็กน้อย ส่วนฝ่ายชายนั่งคุกเข่า ขยับร้องชายให้ตรงกับปากผู้หญิงเพื่อเธอจะได้ละเลงถูก ท่านี้รับประกันความเสียว และความสบายจริงๆ
ระดับความเสียว : 3 ดาว


4.ท่าห่อของขวัญ (Gift Wrapped)
ทั้งผู้ชายและผู้หญิงจะโอบกอดรัดฟัดเหวี่ยงกัน ช่วยเพิ่มความผ่อนคลายและรู้สึกใกล้ชิดกันมากขึ้น โดยผู้หญิงจะต้องงอขาเข้ามากอดผู้ชายเพื่อสะดวกในการสอดใส่ตรงเป๊ะพอดี
ระดับความเสียว : 2 ดาว

5.ท่านางฟ้าหิมะ (Snow Angel)
เป็นท่าที่มีความยากในการใช้งาน เนื่องจากผู้ชายจะต้องหันหลังให้ผู้หญิง โดยการนอนคว่ำหน้าลง และยกก้นขึ้นเพื่อให้ผู้หญิงสอดร่างกายเข้ามารับได้ และยกขาสองข้างให้ขนาดไปกับลำตัวผู้ชาย ท่านี้ผู้หญิงจะได้ควบคุมจังหวะเกมส์รัก และช่วยให้ผู้หญิงถึงจุดสุดยอดโดยความต้องการของเธอเอง
ระดับความเสียว : 4 ดาว

6.ท่าขี่อูฐ (The Pretzel หรือ The Camel Ride)
ข้อดีของท่านี้คือคุณสองคนจะได้มองหน้ากันตลอด และเข้าได้ลึกมากเป็นที่สุด โดยให้ผู้หญิงนอนตะแคงเล็กน้อย ส่วนผู้ชายนั่งคุกเข่าขึ้นคร่อม และยกขวาของผู้หญิงขึ้นมาเพื่อเปิดทางให้สอดใส่เข้าไปได้ ท่านี้จะสร้างความแปลกใหม่ของการสอดใส่ได้เป็นอย่างดี
ระดับความเสียว : 3 ดาว

7.ท่าตีฉิ่งแบบสลับมุม (The Pole Position หรือ Thighmaster)
เป็นท่าที่สร้างแปลกใหม่ขณะร่วมรักได้ดีที่เดียว โดยผู้ชายนอนเอียงทำมุมเล็กน้อย ให้ผู้หญิงขึ้นคร่อมนั่งหันหลังให้ผู้ชาย แต่เอียงตัวเข้าหา ยกขาขวาผู้ชายชันเข่าขึ้น แล้วผู้หญิงแทรกตัวลงไประหว่างขาสองข้าง กะช่องพอดี ท่านี้ผู้หญิงและผู้ชายจะได้มองหน้ากันขณะร่วมรัก ในอีกมุมมองนิ ช่วยเพิ่มรสชาติของการเข้าจังหวะได้อย่างดี
ระดับความเสียว : 3 ดาว

เบื้องหลังงานแข่ง ประกวดอวัยวะเพศผู้หญิง ที่สวยสุดในโลก

เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 58 เว็บไซต์ unilad เปิดเผย เบื้องหลังงานแข่ง และเรื่องราวของ เจ้าของธุรกิจเซ็กส์ทอยชาวอเมริกัน ที่จัดการประกวดอวัยวะเพศหญิงที่สวยสุดในโลก เพื่อตามหาผู้หญิงที่มีอวัยวะเพศที่สวยที่สุดในโลกและนำลักษณะของอวัยวะเพศหญิงคนนั้นมาทำเป็นแบบจำลองเซ็กส์ทอย

Brian ผู้จัดงานการประกวดอวัยวะเพศผู้หญิง เปิดโอกาสให้สาวทั่วโลกได้ส่งภาพอวัยวะเพศของตัวเองเข้าร่วมการแข่งขัน โดยผู้ชนะที่มีอวัยวะเพศที่สวยที่สุด 3 อันดับแรก จะได้รับเงินรางวัลและจะถูกสแกนอวัยวะเพศเพื่อนำไปสร้างเป็นแบบจำลองเซ็กส์ทอย

ด้านเว็บไซต์ Elite Daily จึงออกมาเปิดเผยภาพ เบื้องหลังงานแข่ง ประกวดอวัยวะเพศผู้หญิง ซึ่งเผยให้เห็นช่วงเวลาที่นาย Brian ใช้เครื่องสแกนอวัยวะเพศหญิงของผู้ชนะ 3 อันดับแรก เพื่อนำไปสร้างเป็นแบบจำลองเซ็กส์ทอย

นี่เป็นเหตุผลที่ทำไมปอ ทฤษฎี ไตวาย (อธิบายดีสุดใน 3 โลก)


นี่ล่ะเหตุผลที่ ทำไม ปอ ทฤษฎี อาการป่วยทรุดหนักอย่างรวดเร็วขนาดนี้ เพจดัง ‘หมอหมึกดุ๋ย' ได้อธิบายเอาไว้ให้เข้าใจกันได้อย่างง่ายๆและไม่ซับซ้อน











แจ่มเลย!! อยาก จั๊กกะแร้ขาวหรอ ยาสีฟันช่วยได้นะ!!

สาวๆหลายคนคงจะเคยประสบปัญหากับเรื่องของจั๊กกะแร้ที่ดำหมองคล้ำจนทำให้ไม่กล้าใส่เสื้อแขนกุดหรือเสื้อสายเดี่ยวเกาะอกเลยช่ะม่ะ วันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆมาฝากกันนะจ๊ะ เนื่องจาในเฟซบุ๊ค พระอธิการ นพดล กันตสีโล วัดหนองรั้ว ได้มีการโพสต์เคล็ดลับเด็ดนี้เอาไว้โดยบอกว่า..
บางครั้งชีวิตก็ต้องมีโอกาสได้โชว์ผิวใต้วงแขนแก่สาธารณะ แม้ไม่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์โรลออน...
ขึ้นบีทีเอสจับราวเอย โหนรถเมล์เอย หรือ บังเอิญต้องหยิบคว้าสิ่งของบนชั้นวางสู้งสูง!
กลิ่นตัว ยังพออำพรางได้ด้วยกลิ่นน้ำหอม
แต่ถ้าจั๊กกรูวแร้ดำปี๊ดปี๋ เมคอัพอะไรก็โบกช่วยไม่ได้ แล้วจะทำเยี่ยงไรล่ะ?
ยาสีฟันครีมสีขาว
เข้าใจไม่ผิดหรอก! ยาสีฟันที่เอามาแปรงฟันทุกวันนั้นแหละคร้าบบบ
แต่ขอย้ำอีกรอบว่า "ยาสีฟันเนื้อครีมสีขาว" เท่านั้นนะตัวเธอว์!
โดย ก่อนอาบน้ำ ป้ายยาสีฟันให้ทั่ว "น้องจั๊กกรูวแร้" ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที จากนั้นจึงล้างน้ำออก
เทคนิคเสริมอีกอย่างคือ ตอนล้างออกให้ ขัดถูเบาๆ ไปด้วย เพื่อขจัดคราบดำๆ
วิธีนี้ ทำบ่อยได้สบายปรื้อ! สะดวกและง่าย ไม่เป็นอันตรายต่อผิว

ฮาลั่นเลย!!พระท่านนี้ฝันเห็น "คุณมัด" ว่าแบบนี้? ลั่นเดี๋ยวอาตมาบวชให้!!

ทำเอาบรรดาชาวเน็ตถึงกับฮาลั่นเลยเมื่อ พระไพรวัลย์ วรรณบุตร พระอาจารย์ชื่อดังออกมาเล่าถึงความฝันโดยบอกว่าท่านฝันเห็นคุณมัด ที่หมอดูสื่อกรรมคนหนึ่งชอบพูดถึง? โดยพระไพรวัลย์ได้บอกเล่าความฝันไว้ว่า...
ใจคอไม่ดีเลย เมื่อคืนฝันเห็นคุณมัด มานั่งร้องไห้อยู่หน้ากุฎิอาตมา พยายามจะบอกอาตมาว่า มีคนเอาแกไปโหน อย่างเสียหาย แกบอกว่า แกไม่เคยบีบคอใครเลย แกเป็นผีมีคุณธรรม จะบีบคอใครได้ไง ทำไมหมอดูคนนั้น ต้องมาใส่ร้ายแกด้วย ในฝันอาตมาก็ได้แต่รับฟังอย่างเห็นใจและรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดที่คุณมัดได้รับ สุดท้ายก็เลยบอกแกไปว่า โถ่โยมมัด อย่าร้องนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้า อาตมาจะบวชให้ ‪‎รู้สึกขนลุกมาก‬

พร้อมทั้งยังบอกด้วยว่า.... ที่จริงคนจะเจ็บจะป่วย มันไม่ได้เกี่ยวกับอำนาจของเจ้ากรรมนายเวร ผีสางนางไม้อะไรเลย ‪#‎บ้าบอคอแตก‬ มันเป็นเรื่องของพยาธิ เป็นเรื่องของโรคภัยล้วนล้วน โรคภัยนี่แหละ ที่มันมีอำนาจบันดาลความเจ็บไข้ได้ป่วยให้กับใครก็ได้ ไม่ใช่เทวาซาตานที่ไหน

พุทธศาสนาท่านจึงสอนให้พิจารณาไงว่า พยาธิธัมโมมหิ พยาธิง อะนะตีโต หมายความว่า คนเราล้วนมีความเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นจากความเจ็บไข้ได้ป่วยนั้นไปได้ มีใครบ้างตั้งแต่เกิดมา แล้วไม่เคยเจ็บป่วย ไม่มีหรอก เป็นมากเป็นน้อย ก็ได้เป็นกันทุกคน แม้แต่พุทธองค์ ก็ยังล่วงพ้นจากความเจ็บไข้นี้ไปไม่ได้

เมื่อรู้ว่าเราต้องมีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา พุทธศาสนาจึงบอกอีกว่า อัปปมาเทนะ สัมปาเทถะ หมายความว่า ให้อยู่ด้วยความไม่ประมาท รู้จักดูแลรักษาอัตภาพร่างกายให้ดร เพราะถ้าได้เจ็บป่วยขึ้นมา แล้วมันจะเยียวยาลำบาก ไม่งั้นโบราณเขาจะบอกหรอว่า ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ไม่มีโรคา ไม่นึกถึงหน้าหมอ

ในบรรดาโชคลาภทั้งหลาย ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรประเสริฐไปกว่าการไม่มีโรคอีกแล้ว สอดคล้องกับคำพระที่ท่านว่าไว้ว่า อโรคยา ปรมา ลาภา การไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ